9 เคล็ดลับวิธีดูแลผิวหน้าเรียบเนียน กระจ่างใสเสริมความมั่นใจให้ตัวเอง

 

 

9 เคล็ดลับวิธีดูแลผิวหน้าเรียบเนียน กระจ่างใสเสริมความมั่นใจให้ตัวเอง

สำหรับสาวๆอย่างเราแล้วการดูแลผิวหน้าให้เรียบเนียนกระจ่างใสและห่างไกลปัญหาผิวต่างๆถือเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมากเพราะการดูแลผิวหน้าเป็นอย่างดีให้ปราศจากปัญหาผิวต่างๆเพื่อเผยผิวที่เรียบเนียนและกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้สาวๆหลายๆคนที่พร้อมออกไปเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆได้เป็นอย่างดีนั้นเอง

การดูแลผิวหน้าด้วยวิธีดูแลผิวหน้าวิธีต่างๆเพื่อให้ผิวมีสภาพผิวที่เรียบเนียนและกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติและมีสุขภาพผิวที่ดีห่างไกลจากปัญหาผิวต่างๆคอยตามกวนใจ จึงเป็นสิ่งที่สาวๆหลายคนกำลังมองหาและกำลังให้ความสนใจอยู่ในปัจจุบันนี้กันเป็นอย่างมากนั่นเอง

วันนี้เราจึงรวบรวมนำเอาวิธีดูแลผิวหน้าง่ายๆด้วยตัวเองพร้อมเผยผิวใหม่ที่เรียบเนียนกระจ่างใสและห่างไกลปัญหาผิวที่คอยตามกวนใจมาแชร์ให้เพื่อนๆได้นำไปใช้ในการดูแลผิวหน้ากัน ดังนี้

 

 

ใส่ใจในการล้างทำความสะอาดผิวหน้า

การล้างทำความสะอาดผิวหน้าถือเป็นขั้นตอนแรกของการดูแลผิวที่ไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาดเพราะการล้างทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธีและใส่ใจในการล้างทำความสะอาดผิวหน้าอย่างเหมาะสมเป็นอีกตัวช่วยสำคัญที่ช่วยทำให้ผิวหน้าสะอาดหมดจด, ลดการเกิดปัญหาผิวต่างๆและที่สำคัญการล้างทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธียังช่วยทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยการล้างทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธีมี ดังนี้

  • เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางด้วยโทนเนอร์หรือคลีนซิ่งทุกครั้งก่อนล้างทำความสะอาดผิวหน้า
  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างทำความสะอาดผิวหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคนหรือในกลุ่มคนที่เป็นสิวและผิวแพ้ง่าย ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างทำความสะอาดผิวหน้าสูตรอ่อนโยนเป็นหลัก
  • ล้างทำความสะอาดผิวหน้าตามแนวรูขุมขนเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่ติดค้างอยู่ในรูขุมขนให้ผิวหน้าสะอาดได้ดีมากยิ่งขึ้น
  • ควรล้างทำความสะอาดผิวหน้าอย่างเบามือ ไม่ขัดผิวหรือถูผิวแรงๆโดยเด็ดขาดเพราะพฤติกรรมเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นพฤติกรรมที่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและอักเสบได้ง่ายๆ
  • ทาครีมบำรุงผิวทุกครั้งหลังล้างหน้าเสร็จและครีมบำรุงผิวที่เลือกใช้ควรมีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์เป็นหลักเพราะมอยเจอร์ไรเซอร์ถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่นอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวแล้ว ยังช่วยป้องกันปัญหาผิวแห้งกร้านและป้องกันการเกิดปัญหาผิวต่างๆได้ดีอีกด้วย

 

 

พอกหน้าด้วยสมุนไพรไทย

ควรพอกหน้าด้วยสมุนไพรไทยเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้งหรือถ้าใครมีเวลาพอกหน้าเป็นประจำทุกวันจะเป็นผลดีกับผิวเป็นอย่างมากเพราะการพอกหน้าด้วยสมุนไพรไทยที่อัดแน่นไปด้วยสารอาหารและวิตามินต่างๆเป็นอีกตัวช่วยสำคัญที่ช่วยในการบำรุงผิวให้เรียบเนียนและกระจ่างใสได้เป็นอย่างดีและที่สำคัญการพอกหน้าอย่างสม่ำเสมอยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิว ห่างไกลจากปัญหาผิวต่างๆได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยการพอกหน้าด้วยสมุนไพรไทยที่นิยมนำมาใช้ในการพอกหน้านั้นก็จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด ดังนี้

  • มะละกอสุก การพอกหน้าด้วยมะละกอสุกจะมีส่วนช่วยในการลดการเกิดสิว, ลดริ้วรอยแห่งวัย, ช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติและมะละกอสุกยังมีส่วนช่วยในการรักษาสิวที่เกิดขึ้นมาบนผิวให้ยุบตัวลงได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
  • ว่านหางจระเข้ การพอกหน้าด้วยว่านหางจระเข้จะเป็นการเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวเพื่อป้องกันปัญหาผิวแห้งกร้าน, ผิวหน้าแห้งลอกเป็นขุยและยังมีส่วนช่วยในการปลอบประโลมผิวในขณะที่เป็นสิว, บรรเทาความรุนแรงของสิวและยังมีส่วนช่วยในการลดการเกิดปัญหาผิวต่างๆบนผิวหน้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
  • มะเขือเทศ การพอกหน้าด้วยมะเขือเทศจะมีส่วนช่วยในการฟื้นฟูผิวที่เสื่อมโทรมให้กลับมามีสุขภาพผิวที่ดี , มีส่วนช่วยในการลดการเกิดสิวและยังมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวให้กลับมาเนียนนุ่ม ชุ่มชื่นและกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

ขัดผิวด้วยสมุนไพรไทย

ควรขัดผิวสัปดาห์ละ 1 ครั้งเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอเพราะการขัดผิวด้วยสมุนไพรไทยที่สามารถหาได้ตามท้องถิ่นทั่วไปสัปดาห์ละ 1 ครั้งเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นอีกตัวช่วยสำคัญที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่คล้ำเสียให้หลุดลอกออก เผบผิวใหม่ที่กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติและการขัดผิวยังมีส่วนช่วยในการลดการอุดตันในรูขุมขน, ช่วยให้ผิวสะอาดหมดจดมากยิ่งขึ้นและยังเป็นตัวช่วยสำคัญที่มีส่วนช่วยในการลดการเกิดสิวประเภทต่างๆขึ้นมาบนผิวหน้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยส่วนมากแล้วสมุนไพรไทยที่นิยมนำมาใช้ในการขัดผิวจะมีอยู่ด้วยกัน ดังนี้

  • มะขามเปียก การนำเอามะขามเปียกมาขัดเบาๆให้ทั่วผิวเป็นอีกตัวช่วยสำคัญที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่คล้ำเสียให้หลุดลอกออกและเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติได้ดีมากยิ่งขึ้น
  • ขมิ้นชัน การนำเอาขมิ้นชันมาขัดผิวเป็นอีกตัวช่วยสำคัญที่นอกจากจะมีส่วนช่วยในการรักษาสิวและปัญหาผิวต่างๆให้ลดเลือนลงได้เป็นอย่างดีแล้ว ขมิ้นชันยังมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวให้เนียนนุ่มและกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ทาครีมกันแดดเป็นประจำ

ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกครั้งก่อนออกไปเผชิญกับแสงแดดเพราะครีมกันแดดถือเป็นเกราะป้องกันผิวที่นอกจากจะช่วยลดความรุนแรงของแสงแดดที่มาทำลายผิวให้ลดน้อยลงได้เป็นอย่างดีแล้ว ครีมกันแดดยังเป็นอีกตัวช่วยสำคัญที่มีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดปัญหาผิวไหม้แดด, ผิวแห้งกร้านและยังเป็นตัวช่วยสำคัญที่มีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดปัญหาผิวต่างๆที่เกิดจากการทำลายของแสงแดดรวมไปถึงการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้เป็นอย่างดีอีกด้วย แต่ครีมกันแดดที่เลือกใช้ควรจะเป็นครีมกันแดดเนื้อบางเบาที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคนเพื่อป้องกันการอุดตันในรูขุมขน จนก่อให้เกิดปัญหาผิวต่างๆตามมาได้นั่นเอง

 

 

กินผักและผลไม้ในทุกๆมื้ออาหาร

ควรกินผักและผลไม้ในทุกๆมื้ออาหารเพราะการกินผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารและวิตามินต่างๆที่นอกจากจะมีประโยชน์ต่อร่างกายในการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดีแล้ว ผัก ผลไม้ในทุกมื้ออาหารนั้นยังเป็นอีกตัวช่วยสำคัญที่มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวและเสริมสร้างความแข็งแรงของผิวให้มีสุขภาพผิวที่ดีพร้อมที่จะจัดการกับปัญหาผิวต่างๆที่จะเกิดขึ้นมาบนผิวได้ดีอีกด้วย โดยผัก ผลไม้เพื่อผิวที่คนส่วนใหญ่นิยมกินเพื่อบำรุงผิวนั้นมี ดังนี้

  • มะเขือเทศ
  • อะโวคาโด
  • มะละกอสุก
  • ส้ม
  • ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
  • บล็อกโคลี่
  • แตงกวา
  • ผักโขม

ทานอาหารเสริมอย่างสม่ำเสมอ

ทานอาหารเสริมอย่างสม่ำเสมอเพราะนอกจากการกินผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารและวิตามินต่างๆที่เป็นตัวช่วยสำคัญในการบำรุงผิวให้มีสุขภาพผิวที่ดีได้เป็นอย่างดีแล้ว การทานวิตามินเสริมที่มีประโยชน์ต่อผิวก็ยังถือเป็นอีกสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาดเพราะวิตามินชนิดต่างๆนั้น ไม่ได้มีดีเพียงแค่เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายเพียงเท่านั้น แต่วิตามินชนิดต่างๆยังมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ผิวมีสุขภาพผิวที่ดีและห่างไกลปัญหาผิวต่างๆได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ดื่มน้ำเปล่าทุกครั้งหลังตื่นนอน

ควรดื่มน้ำเปล่าทุกครั้งหลังตื่นนอนเพราะการดื่มน้ำเปล่าทุกครั้งหลังตื่นนอน นอกจากจะช่วยในการเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับร่างกายให้รู้สึกกระปรี้กระเป่าได้ดีแล้ว การดื่มน้ำเปล่าเป็นประจำทุกวันหลังตื่นนอนหรือก่อนกินข้าวเช้าประมาณ 30 นาทีนั้นยังเป็นอีกตัวช่วยสำคัญที่มีส่วนช่วยในการขับล้างสารพิษและสิ่งสกปรกต่างๆออกจากร่างกายช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่นมากยิ่งขึ้นและยังมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวให้เปล่งปลั่งกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติและยังชะลอวัยได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที

ควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาทีเพราะการออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยทำให้เลือดและออกซิเจนเข้าไปหล่อเลี้ยงยังส่วนต่างๆของร่างกายได้ดีมากยิ่งขึ้นและยังมีส่วนช่วยในการขับสารพิษออกจากร่างกายและช่วยลดการอุดตันในรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวได้เป็นอย่างดีอีกด้วยนั่นเอง

 

 

พักผ่อนให้เพียงพอหรืออย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง

ควรพักผ่อนให้เพียงพอหรืออย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมงเพราะการพักผ่อนให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงการเข้านอนดึกหรือนอนเช้าถือเป็นอีกตัวช่วยสำคัญที่ช่วยทำให้ผิวสามารถฟื้นฟูตัวเองได้อย่างเต็มที่และช่วยในการลดการเกิดปัญหาผิวต่างๆทั้ง ปัญหาสิว, ริ้วรอยแห่งวัยหรือแม้กระทั่งปัญหาผิวหน้าเสื่อมโทรมและหมองคล้ำได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ดังนั้นวิธีดูแลผิวหน้าให้มีสุขภาพผิวที่ดีและห่างไกลจากปัญหาผิวต่างๆด้วยวิธีดูแลผิวหน้าง่ายๆที่สามารถนำไปใช้ในการดูแลผิวได้ด้วยตัวเองที่ไม่เพียงแค่ช่วยให้ผิวมีสุขภาพผิวที่ดีและห่างไกลปัญหาผิวต่างๆตามที่ใครหลายๆคนต้องการได้เพียงเท่านั้น แต่การดูแลผิวด้วยวิธีดูแลผิวหน้าทั้ง 9 วิธีนี้ยังเป็นวิธีการดูแลผิวที่ช่วยทำให้ใครหลายๆคนเพิ่มความมั่นใจให้ใครหลายๆคนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

Nichapa teekasp.com

ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ แชร์เลย